วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2555

4 อาหารปราบความดัน

        ผู้หญิงสมัยนี้ส่วนใหญ๋ไม่ค่อมีเวลาออกกำลังกายแถมยังชอบกินอาหารฟาสต์ฟุ้ดที่สะดวกรวดเร็วแต่เกลือเพียบ เลยอาจจะเป็นความดันสูงกันได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าพยายามกินอาหาร 4 อย่างนี้ให้มากๆ ความดันก็ความดันเถอะไม่กลัวอยู่แล้ว!!
       
           

1. กระเทียมและหัวหอม
     สมุนไพรใกล้บ้านพวกนี้จัดอยู่ในหมวดของดีที่ลูกผู้หญิงห้ามพลาด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่อยากเป็นความดันสูง เพราะสารประกอบซัลเฟอร์จากหอมกระเทียมจะช่วยขยายหลอดเลือด ลดแรงบีบตัวของเลือดรักษาความดันให้เป็นปกติ

2. กล้วย
    จะกล้วยสด กล้วยฉาบ หรือกล้วยแขก ใช้ได้ทั้งนั้นขอให้เป็นกล้วยก้พอ กล้วยเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงมาก และเจ้าโพแทสเซียมนี้เองเป็นมือปราบความดันทำให้ความดันสูงๆ รีบลดลงมาเป็นปกติแบบไม่ต้องรอให้สั่งเลยเชียว

3. สาหร่ายทะเล
    นอกจากช่วยให้ผมดำเป็นเงางามแล้วกรดโอเมก้า-3 ในสาหร่ายทะเลยังเป็นกรดไขมันที่ช่วยปกป้องหัวใจทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงได้คล่องปรี๊ดๆ พร้อมกับจัดระเบียบความดันให้เป็นปกติไปในตัวด้วย

4. ปลาตัวเล็กๆ
    จะเป็นปลาอะไร ถูกแพงแค่ไหน ความดันของเราไม่เกี่ยง ขอแค่สามารถเคี้ยวทั้งก้างให้ร่างกายได้แคลเซียมเท่านั้นล่ะ เพราะแคลเซียมเป็นสารอาหารอีกตัวหนึ่ง จะช่วยให้ความดันเป็นปกติ ความดันต่ำก็สูงขึ้น ส่วนความดันสูงก็จะต่ำลง อะเมซิ่งมั้ยล่ะ!!



            

เคล็ดลับเพื่อสุขภาพอีกมากมายอ่านได้ ที่นี้ http://happyninom.blogspot.com/

ข้าวโอ๊ตทำอะไรให้เราได้บ้าง

       ถ้าไปดูชาร์ตอาหารที่มีประโยชน์สูงสุดในวันนี้ ใครจะเห็นของข้าวโอ๊ตอยู่ด้วย เพราะคาวมดีรอบตัวของเจ้าข้าวสายพันธุ์นี้กำลังโดนเด่นเข้าตานักโภชนาการขึ้นทุกวัน มาดูกันดีกว่าว่าเจ้าข้าวโอ๊ตมีประโยชน์อย่างไรกันบ้าง



1. เป็นอาหารลดความอ้วน
    บรรณาธิการของนิตยาสาร Health's Senior Food and Nutrition เขาแนะนำว่าเส้นใยในข้าวโอ๊ตจะช่วยให้เราลดความอ้วนได้แบบไม่ต้องทนหิว สาวๆที่อยากไดเอท แค่ดื่มน้ำโอ๊ตก่อนกินข้าวมื้อหลักๆ ประมาณครึ่งชั่วโมง ไฟเปอร์ของข้าวโอ๊ตก็จะไปพองตัวในท้อง ทำให้คุณอิ่มเร็วขึ้น แถมข้าวโอ๊ตยังมีสรรพคุณในการลดโคเลสเตอรอล เรื่องไขมันสะสมจึงหายห่วง

2. สู้มะเร็งเต้านม
    จะเร็ง มะโรง หรือมะเส็งก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาวุ้นวายกับเต้าของคุณ ถ้ามีข้าวโอ๊ตเป็นเมนูของกินประจำบ้าน เพราะวารสารระบาดวิทยานานาชาติ (International Journal of Epidemiology) เขาวิจัยแล้วว่าผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนที่กินข้าวโอ๊ตหรือข้าวกล้องมากๆ จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งเต้านมลงไปถึง41%



3. เพิ่มความสวยใส
    ช่วงนี้อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด แม้แต่เรื่องความสวยของเราก็ไม่จำเป็นต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินก้อนโต แค่เอาข้าวโอ๊ตครึ่งถ้วย น้ำร้อนครึ่งถ้วย กับน้ำผึ่ง 1/4 ถ้วย มาปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันแล้วเอามาพอกหน้าเพียงครึ่งชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ผิวหน้าของคุณจะสะอาดลึกถึงรูขุมขน หน้าจะใสหมดสิวเสี้ยนจุดด่างดำก็คราวนี้ล่ะ

4. อาหารเพิ่มการผาผลาญ
    ใครๆก็รู้ว่าระบบเผาผลาญสำคัญกับการลดความอ้วนขนาดไหน ถ้าอย่างนั้นสาวๆคงจะต้องชอบเพราะถ้ารู้ว่า แค่คุณกินข้าวโอ๊ตก่อนออกกำลังกาย 3 ชั่วโมง ร่างกายก็จะเผาผลาญได้เร็วขึ้น และทำให้มีเรี่ยวแรง ออกเอ็กเซอร์ไซส์ได้นานขึ้นด้วย อันนี้งานวิจัยจากประเทศอังกฤษเขาบอกว่าเจ้าคร้า!!


เคล็ดลับความสวยอีกมากมายที่นี้ http://happyninom.blogspot.com/


ความลับของนักฟิตเนสมืออาชีพ(Top Secret From Top Fitness Pro)

       นักฟิตเนสทั้งหลายหุ่นดีกันเหลือเกิน เพราะพวกเขามีเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้รูปร่างได้สัดส่วน Blogเพื่อสุขภาพ จึงไม่รอช้า รีบไปเจาะลึกมาให้สาวแซบกันทั้งหลายแล้วค่ะ


1. Ploy lip service to hot abs
     ระหว่างที่ซิทอัพควรจะห่อปากเป็นวงค์เล็กๆแล้วปล่อยลมหายใจออกทางปากเหมือนกำลังเป่าหลอดกาแฟ จะทำให้รู้สึกถึงความร้อนของหน้าท้องได้มากขึ้น และทำให้หน้าท้องเฟิร์มเร็วข้ึนด้วย


2. Set it and forget it
     แทนที่จะตั้งเวลาบนเครื่องออกกำลังกาย นักฟิตเนสเขาให้ตั้งเวลาด้วยนาฬิกาปลุกมากกว่าเพราะเวลาบนเครืื่องจะอยู่ตรงหน้าเราตลอด ทำให้คนเล่นกระวนกระวายอยากให้เวลาเดินเร็วๆ หรืออาจท้อจนเลิกก่อนเวลาที่ตั้งไว้ แต่ถ้าตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้วเอาว่่างไว้ด้านหลัง คุณจะออกกำลังไปเรื่อยๆ ได้อย่างสบายใจ เสียงนาฬิกาปลุกดังเมื่อไรค่อยเลิกเมื่อนั้น

3. Grab an icy beverage
     แม้แต่มืออาชีพก็ยังแนะนำให้ดื่มน้ำเย็นๆ ผลการวิจัยเขาบอกว่าน้ำเย็นๆจะช่วยให้เรากระปรี้กระเปร่าสดชื่น ทำให้ออกกำลังกายนานขึ้นอีก 23% ข้อนี้เหมาะสำหรับสาวขี้ร้อนที่เหนื่อยง่ายเป็นพิเศษ



4. Be belle of the ball
    ลูกบลลูกโตๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8-12 นิ้ว เป็นอุปกรณ์ที่ยอดมากๆๆ ระหว่างที่ซิทอัพ ถ้าคุณหนีบลูกบอลเอาไว้ที่ข้อพับ เข่า ขาด้านใน และน่อง จะได้เผ่าพลาญไขมันไปพร้อมๆกันนอกจากท้องจะแบนแล้ว น่องยังเรียวสวย ใส่กระโป่งสั้นได้ไม่อายใคร ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแน่ะ!

5. Keep a to-do list
    ผู้หญิงที่กำลังไดเอทจะชอบเขียนตารางออกกำลังกายหรือตารางทำงานบ้าน ซึ่งเท่ากับเป็นการออกกำลังกายไปในตัว แต่แล้วพอความขี้เกียจมาเยือนรายการนั้นก็จะเป็นแค่เศษกระดาษที่คุณไม่อยากมอง แต่ถ้าสาวๆทำตามตารางอย่างจริงจัง ไม่งอแง ไม่โยเย รับรองว่าบอดี้งามๆจะเป็นของคุณอย่างแน่นอน อยู่ที่คุณจะมีวินัยในตัวเองมากหรือเปล่าแค่นั้นล่ะ



6. Groove and get fit
    การฟังเพลงไปด้วยระหว่างที่เอ็กเซอร์ไซส์จะทำให้คุณไม่เบื่อ และช่วยยืดเวลาออกกำลังอีกหลายนาที ที่สำคัญตลอดเวลาที่ออกกำลังคุณควรควรทิ้งปัญหาให้หมด  อย่าคิดเรื่องงาน เรื่องแฟน เพื่อน เรื่องปากท้อง หรือแม้แต่เรื่องออกกำลังกาย ให้ตั้งสมาธิไปที่เสียงเพลงอย่างเดียว แค่นี้การออกกำลังก็จะกลายเป็นเรื่องมันส์ๆ ประจำวันที่คุณไม่ยอมพลาดแล้วล่ะค่ะ


เคล็ดลับความสวยอีกมากมายที่นี้ http://happyninom.blogspot.com/

เติมพลังหลังอดนอน.....

       
        สาวทำงานอย่างเรากับเรื่องอดนอนคงจะมีโอกาสโคจรมาเจอกันบ่อยๆ แต่จะทำอย่างไรล่ะ ถึงจะอดนอนแต่ยังกะปรี้กระเปร่า เรื่องแบบนี้ต้องมีเทคนิคค่ะ

       1 วินตามีนบีและซีคูณสอง
           เวลาเราไม่เข้านอนตามเวลาเดิมต่อมใต้สมองก็จะปั่นปวนและสร้างความเครียดขึ้นมา เหล่านกฮูกทั้งหลายจึงได้อารมเสียกันทั้งวัน สาวๆควรจะเกทับบลั๊ฟแหลกด้วยอาหารที่ทำให้อารมณ์ดี อย่างวินตามีนบีและซีเสียเลย แต่มีเคล็ดลับว่าต้องกินมากเป็นพิเศษ มากกกว่าที่กินในเวลาปกติเช่น น้ำส้มคั่นสดๆแก้วโตๆ 2 แก้ว ข้าวกล้อง หร่ือจะกินเป็นวินตามีนสกัดเข็มขัดไปเลยก็ได้

       2. มื้อดึกช่วยได้
           ถ้าเข้านอนตามปกติ เราไม่ควรทานอาหารก่อนนอน 6 ชั่วโมง แต่ถ้าตั้งใจจะไม่นอนหลังจากอาหารเย็น 6 ชั่วโมง สาวแซบควรจะทานอาหารที่ย่อยง่ายๆ เช่น น้ำเต้าหู้อุ่นๆ โจ๊ก น้ำธัญพืช เพื่อสร้างพลังให้ร่างกาย ช่วยให้ไม่เพลียและรักษาอารมณ์ไม่ให้มาคุ แต่ห้ามถือโอกาสกินอาหารที่ไขมันสูงเป็นอันขาด เพราะพวกไขมันเป็นอาหารที่ย่อยยาก ทำให้ลำไส้ซึ่งควรจะได้พักผ่อนต้องลุกขึ้นมาทำงานหนักอีกรอบ
       3. เข้านอนให้เร็วที่สุด
           ร่างกายเราต้องการพักผ่อนอย่างน้อยคืนละ 4 ชั่วโมง เพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูพลังงาน หลังจากทำงานดึกเสร้จแล้วคุณจึงควรจะรีบเข้านอนให้เร็วที่สุด ร่างกายจะได้ไม่โทรมจนเกิดไป
       4. เซน์ใส่คาเฟอีน
            ชาหรือกาแฟจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นไปอีกประมาณ 6 ชั่วโมง ถ้าดื่มกาแฟตอนเที่ยงคืนก็หมายความว่าถึงแม้ว่าจะทำงานเสร็จแล้ว คุณก็จะนอนไม่หลับไปทั้งคืน ถ้าจะดื่มกาแฟสาวๆควรดื่มตั้งแต่ตอนเย็น จะได้ไม่ตาค้างจนเสียโอกาสได้พักผ่อน
       5. อย่านอนชดเฉย
           การนอนชดเชยไม่มีประโยชน์อะไรเลย ซ้ำยังจะทำให้สมองยิ่งล้า เซื่องซึม ง่วงหนักไปทั้งวันแทนที่จะนอนตื่นสายๆ คุณควรจะพยายามทำตัวกระปรี้กระเปร่าเข้าไว้เข้าไว้ แล้วค่อยนอนแต่หัวค่ำในคืนนั้น ร่างกายจะสดชื่นมากกว่า


เคล็ดลับความสวยอีกมากมายที่นี้ http://happyninom.blogspot.com/

5 สัญญาณจับพิรุธ เมื่อสุขภาพไม่สบาย

        สุขภาพของเราหน้าสงสารตรงที่ถึงจะอยากร้องดังๆ ก็ทำไม่ได้ เจ้าของอย่างเราจึงต้องหาทางจับสัญญาณที่สุขภาพส่งมากันเอาเอง ด้วยการสังเกตจากอวัยวะแต่ละส่วนของเรานั้นเอง


       ตา ถ้าตาดำเอาๆ จนจะกลายเป็นหลินปิงอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่คุณไม่ได้ไปอดหลับอดนอนที่ไหน ให้สัญนิษฐานไว้ก่อนว่าคุณจะเป็นโรคภูมิแพ้ เพราะเวลาที่ร่างกายรับสารภูมิแพ้เข้ามามันจะปล่อยเป็นสารฮีสตามีน ทำให้เกิดรอยคล้ำๆ ใต้ดวงตาอย่างที่เห็นนี่ล่ะ
           หนังศีรษะ ถ้าผมของคุณร่วงเอาร่วงเอาทั้งๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนแชมพู ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมชนิดใหม่ๆ อาการนี้น่าจะมาจากต่อมไทรอยด์ผิดปกติคนเดียวที่จะช่วยได้ก็คือคุณหมอเท่านั้นค่ะ
           ลิ้น เวลาแลบลิ้นจนสุดถ้าเห็นจุดสารพัดสี ทั้งขาว เหลือง ส้ม กระจายอยู่ทั่วไปเป็นสัญญาณว่า คุณคงจะเป็นเหยื่อของโรคกรดไหลย้อนเข้าแล้ว แต่ไม่เป็นไร โรคแค่นี้รักษาเองได้ด้วยการกินอาหารตรงตามเวลา งดอาหารรสเผ็ดจัด ดื่มนมเพื่อเคลือบกระเพาะ หรือจะกินยาลดกรดช่วยอีกทางก็ยังได้
           ขนหน้าท้อง ผู้หญิงเรามักไม่มีขนหน้าท้อง แต่ถ้าหนึ่งหน้าท้องของคุณมีขนดกอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน สงสัยคงจะต้องรีบไปหาหมอซะแล้วล่ะ เพราะอาการแบบนี้น่าจะมาจากการมีถุงวน้ำในรังไข่ ขืนปล่อยทิ้งเอาไว้เดี๋ยวมะเร็งจะถามหาเอาได้นะค่ะ
           รักแร้ สาวสวยอย่างเราต้องไม่รักแร้ดำ แต่ถ้าหากโรออนหมดไปเป็นสองขวดมันก้ยังไม่ยอมขาว แถมยังสากๆ พิกล เป็นไปได้ว่านี้คือสัญญาณของโรคเบาหวาน ก็หมออีกละคะที่จะเป็นที่พึ่งของคุณ

เคล็ดลับเพื่อสุขภาพอีกมากมายอ่านได้ ที่นี้ http://happyninom.blogspot.com/

แต่งหน้ายังไง ?? จากเหลี่ยมใหญ่ให้เรียวสวย..


"สาวหน้ากว้างกรามชัดมักผิวเข็ม" ลักษณะแบบนี้โดนเลยค่ะ เข้าตาฝรั่งมากๆ แต่คนมักคิดว่าใบสี่เหลี่ยมแบบนี้ไม่เวิร์คเท่าไร ดูยังไงก็ไม่เข้าวิน อย่าค่ะ!! อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะถึงรูปหน้าเราไม่เรียวเล็กเหมือนึนอื่น แต่ถ้าได้ัรบการแต่งหน้าอย่างเทคนิคแล้ว สาวหน้ารูปไข่ทั้งหลายก็อาจสู้ไม่ได้เลยทีเดียว

            ใบหน้าที่มีความเหลี่ยมจนเห็นได้ชัด จำเป็นต้องใช้การกลบและการ ด้วยลงเฉดดิ้งและไฮไลท์เพื่อสร้างรูปหน้าที่สวยงามขึ้น

 


             รองพื้นจำเป็นต้องใช้2สีด้วยกัน นั่นก็คือสีเดียวกับสีผิวหนึ่งสีและสีที่เข็มกว่าสีผิวอีกหนึ่งถึงสองระดับอีกหนึ่งสี แต่ก่อนจะลงรองพื้น อย่าลืมบำรุงผิวกันก่อนนะคะ
             สาวผิวขาวที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอกันหรือมีผิวแดงทั้งหลายอาจต้องลงเบสสีเขียวก่อนเพื่อปรับสีผิวให้เท่ากัน ส่วนสาวผิวเข็มหรือสาวที่ไม่มีปัญหาเรื่องผิว สามารถลงเบสสีม่วงเพื่อไฮไลท์หน้าขั้นแรกได้เลย เราจะแต้มที่บริเวณที-โซน แก้มและค้างเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหน้า เพื่อที่เวลาหน้าดดนแสงแล้ว จุดที่เราไฮไลท์จะสว่างขึ้นมาทำให้หน้าเด่นโดนบัดดล หากยังมีปัญหารอยคล้ำรอบดวงตาอีก ก็ให้ทาคอลซีลเลอร์กลบได้เลย
            คราวนี้ก็มาลงรองพื้นกันได้เลย เริ่มจากสีที่เข็มกว่าสีผิวก่อนนำมาลงบริเวณด้านข้างใบหน้าแต้มตั้งแต่แนวโหนกกระโหลศีรษะด้านข้างลงมาเรื่อยๆ ตามแนวขมับ ยาวมาโหนกแก้ม ต่อมาที่แนวขากรรไกร และเลยไปถึงคาง จากนั้นก็เกลี่ยเนื้อครีมให้ทั่วแนวด้านข้างใบหน้า รองพื้นที่เราลงเป็นเฉดดิ้งนี้จะช่วยให้หน้าไม่แบน แถมยังช่วยให้หน้าดูเรียวขึ้นด้วย อย่าลืมเฉดดิ้งมุมขากรรไกรด้วย จะได้ช่วยลดความเหลี่ยมของใบหน้าให้ได้รูปมากขึ้น
           คุณสามารถเลือกได้ว่าจะลงรองพื้นที่สีเดียวกันกับสีผิวหรือไม่ หากต้องการความเนียนและความปกปิดก็ควรลง แต่ถ้าสภาพผิวดีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็น รองพื้นที่เข้ากันกับสีผิวนี้เราจะใช้ลงที่บริเวณกลางหน้าในส่วนที่ไม่ได้ลงเฉดดิ้ง
          จากนั้นก็เพิ่มมิติให้กับหน้าอีกนิดด้วยการไฮไลท์บริเวณหน้าผาก หัวตา แนวจมูก และใต้ตา เพื่อให้หน้าดูสว่างและเด้ง
          จบขั้นตอนการทำหน้าเรียวต่อก็เป็นสเต็ปการเพิ่มสีสันให้ใบหน้า
          เริ่มจากดวงตา เลือกสีอายแชโดว์ตามสะดวก สาวผิวสีน้ำผึ้งลองใช้สีทองประกายวิ้งดู เข้ากับสีผิวของคุณได้ดี เนันวิ้งเยอะหน่อยบริเวณโหนกคิ้ว ส่วนสาวผิวขาวเลือกสีได้เยอะกว่า ลงสีตาแล้วก้ต้องตามด้วยไฮไลท์ให้ทั่วเปลือกตา ตาจะได้ไม่ดูแบน
          แล้วก็มาเขียนขอบตาสาวผิวขาวเขียนสีดำลากเส้นบางที่บริเวณ2ใน3ของดวงตาก่อนแล้วค่อยไปเน้นหนาที่หางตา ส่วนสาวผิวเข็มลองลงอายไลท์เนอร์สีแดงและวกรีดเสันดำชิดขอบตาอีกที คุณจะได้ลุคส์ที่ดูโฉยเฉี่ยวในแบบที่สาวผิวขาวทำไม่ได้
         ส่วนคิ้วแนะนำให้ใช้สีน้ำตาล และแก้มก็ลงสีอ่อนๆ ที่เข้ากับสีตา สาวผิวเข้มจะดูเหมาะกับสีส้มอิฐ ส่วนปากของสาวผิวขาวลงแบบฉ่ำๆได้เลย สาวผิวเข็มใช้แนยวสีเอิร์ทโทนจะรับกับลุคส์ของคุณมากที่สุด
       

 แค่นี้หน้าคุณก็จะดูเรียวสวยและโดนเด่นได้ไม่แพ้ใครแล้วคะ

เคล็ดลับความสวยอีกมากมายที่นี้ http://happyninom.blogspot.com/

ทรงผมสุดฮิตปี 2555

ทรงผมที่ฮิตตลอดกาล


ถ้าพูดถึงทรงสุดฮิตต้องหนีไม่พ้นทรงนี้แน่นนอนไม่ว่าจะปีไหนๆผมยาวดัดลอนปลายทรงนี้ก็ยังได้รับความนิยมจากสาวสวยกันมากมายไม่จะเป็นดาราไทย-เกาหลี เรียกกันว่าฮิตตั้งแต่สาวน้อยยันสาวใหญ่กันเลยที่เดียว



ยังมีเคล็ดลับความสวยรอให้คุณได้อ่านอีกมากมาย ที่นี้ http://happyninom.blogspot.com/

เคล็ดลับตาสวย


มาเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตากันเถอะ

a_eyeliner

1. เขียนอายไลเนอร์ให้ดวงตากลมโต

เริ่ม จากเขียนอายไลเนอร์สีดำเฉพาะขอบตาด้านบนโดยวาดให้เส้นมีความหนาประมาณหนึ่ง ตาจะดูหวานขึ้น จากนั้นใช้อายแชโดว์หรืออายไลเนอร์แบบดินสอสีขาวเขียนที่ขอบตาล่างจากหัวตา ไปประมาณสามส่วนสี่ของขอบตาล่าง โดยทำให้ดูฟุ้งๆ จะช่วยให้ตาดูกลมโตขึ้น และที่สำคัญคือ ปัดมาสคาร่าชนิดที่มำให้ขนตาดูหนาเป็นแพก็จะได้ดูลุคสาวแบ๊วดวงตากลมโตแล้ว

2. วิธีแก้ปัญหาการเขียนอายไลเนอร์เลอะ

วิธี ง่ายๆ โดยไม่ต้องกังวลกับรอยเปื้อนให้วาดอายไลเนอร์ต่อไปจนเสร็จตามต้องการ จากนั้นใช้คัทตอนบัทแต้มรองพื้นชนิดลิขควิดเกลี่ยเยาๆ ตรงรอยเปื้อน เพียงเท่านี้รอยเปื้อนก็จะหมดไปผิวหน้าก็จะไม่เป็นรอยด่างหลังการเช็ด เพราะรองพื้นจะช่วยเติมเต็มร่องรอยให้ดูเรียบเนียนเหมือนเดิม

3. อายไลเนอร์ชนิดมีสีสันเป็นได้มากกว่าเส้นขอบตา

เริ่ม ด้วยการใช้อายไลเนอร์สีสันที่ชอบระบายให้ทั่วบริเวณชั้นพับตาหรือเขียนใต้ตา เพียงเท่านี้ก็จะได้เฉดสีตาที่ดูสดกว่าการทาอายแชโดว์ชนิดฝุ่นเพียงอย่าง เดียว และถ้าต้องการให้สีติดทนอย่าลืมทาทับอีกชั้นด้วยอายแชโดว์เฉดเดียวกัน เพียงเท่านี้สีสันก็จะติดทนนานทั้งวันไม่ลบเลือนง่าย

4. อายไลเนอร์ทำให้ขอบตาเลอะช่วงบ่าย

อาย ไลเนอร์ส่วนมากมีลักษณะเป็นครีมเนื้อนิ่ม เขียนง่ายซึ่งบางท่านมักจะประสบกับปัญหาหน้าเลอะในช่วงบ่าย วิธีง่ายๆ สำหรับจัดการกับรอยเลอะก็คือ หลังเขียนอายไลเนอร์แล้วให้ใช้อายไชโดว์ที่มีเฉดสีใกล้เคียงกับอายไลเนอร์ทา ทับอีกชั้น เพียงเท่านี้ดวงตาของคุณก็จะใสปิ๊งไปตลอดทั้งวัน

5. แก้ปัญหาแท่งอายไลเนอร์เหลาแล้วหัก

อาย ไลเนอร์ชนิดดินสอจะเป็นเนื้อครีม ดังนั้นเมื่อโดนความร้อนเนื้อครีมจะอ่อนตัว ทำให้เวลาเหลาจะไม่ได้ปลายแหลมและหักง่ายวิธีง่ายๆ คือนำอายไลเนอร์ไปแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที เพียงเท่านี้ก็สามารถเหลาได้ไม่หัก


6 วิธีการ ที่ทำให้คิ้วของคุณมีรูปทรงตามที่ต้องการ


“คิ้ว” ใครบอกว่าไม่สำคัญ …. หลากเทคนิคดูแล-จัดการกับ “คิ้วยุ่งๆ” เพื่อใบหน้าสวยงาม-โดดเด่น
โดย สิงห์สีชมพู คิ้วเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งบนใบหน้าของเรา เพราะมันเป็นเสมือนตัวกำหนดโครงสร้างของใบหน้า หากสังเกตให้ดี จะพบว่าถ้าคิ้วของเรามีรูปร่างที่เปลี่ยนไป ใบหน้าของเราจะดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

สัปดาห์นี้
“สิงห์สีชมพู” จะพาไปดูข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ ”คิ้ว”ไม่ว่าจะเป็นวิธีการต่างๆ ที่ใช้จัดการให้คิ้วได้รูปทรงสวยงามและวิทยากรใหม่ๆ ที่ช่วยให้คนที่มีคิ้วบาง แต่อยากมีคิ้วที่หนาขึ้น ได้สมใจกัน
เริ่มต้นจาก 6 วิธีการ ที่ทำให้คิ้วของคุณมีรูปทรงตามที่ต้องการ

1. การถอนคิ้วด้วยด้าย (Threading) เป็นถอนขนคิ้วออกจากรูขุมขนด้วยเส้นด้าย ผลที่ได้คือเส้นคิ้วที่เป็นระเบียบ คมชัด และมีรูปทรงสวยงาม

2. การแว็กซ์ (Waxing) ส่วนมากมักมีบริการตามสถานเสริมความงาม วิธีการเริ่มจากการนำแว็กซ์ป้ายตรงจุดที่ไม่ต้องการให้มีขนคิ้ว จากนั้นใช้ผ้าหรือกระดาษวางทับก่อนที่จะดึงออกมา ข้อเสียคือเจ็บ แต่มีข้อดีขึ้นรูปทรงของคิ้วจะอยู่ได้นานกว่าการถอน เพราะขนจะขึ้นช้ากว่า

3. การถอน (Plucking) เป็นวิธีที่นิยมมาก แต่สาวๆ ส่วนใหญ่มักจะถอนขนคิ้วบ่อยเกินไป ซึ่งอาจเป็นการทำลายรูขุมขน ทำให้ขนไม่ยาวออกมาอีกต่อไป สุดท้ายคิ้วที่ได้ออกมาจึงแหว่งๆ ดูไม่สวยงาม จึงควรถอนขนคิ้วที่ไม่เป็นระเบียบออกมาแค่ 2 - 3 เส้นต่อวันก็พอ

4. การใช้ดินสอเขียนคิ้ว ซึ่งสามารถช่วยเติมช่องว่างคิ้วที่แหว่งได้ และเขียนให้คิ้วยาวขึ้นได้

5. การสักคิ้ว (Tattooing) มักเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ถอนคิ้วมากไป จนคิ้วโกร๋น ควรตัดสินใจให้ดีก่อนทำการสัก เพราะสามารถแก้ไขได้ยากและอาจต้องอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต

คิ้วที่ได้สัดส่วนสวยงามของ “Twiggy” ดารานางแบบชื่อดังในอดีต
“บาร์บาร่า ดาลี่” เมกอัพอาร์ทติสและนักออกแบบเครื่องสำอาง ให้คำแนะนำไว้ว่า “ไม่ว่าเทรนด์การแต่งหน้าจะเป็นแบบไหน คิ้วของคุณควรเป็นธรรมชาติเข้ากับโครงสร้างของใบหน้า ซึ่งสามารถดูได้ง่ายๆ โดยคิ้วที่สวยงามต้องมีหัวคิ้วอยู่บริเวณ ที่แนวโค้งของกระดูกคิ้วบรรจบกับส่วนบนของจมูก ส่วนหางคิ้วควรอยู่ตรงที่ที่ขนคิ้วหยุดยาวตามธรรมชาติ”
ส่วนการถอนคิ้วควรทำหลังอาบน้ำ เพราะเป็นช่วงที่ผิวหนังสะอาดและเรียบลื่น ที่สำคัญต้องถอนขนคิ้วในที่มีแสงสว่างเพียงพอ เตรียมกระจก หากเป็นกระจกขยายก็ยิ่งดี รวบผมไว้ด้านหลังไม่ให้ปรกหน้า จากนั้นเช็ดคิ้วด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแบบอ่อนๆ (แนะนำให้ใช้น้ำผสมกับ “ทีทรีออย”) และใช้แปรงสีฟันที่สะอาดๆ แปรงขนคิ้วไปขึ้นไปด้านบนและแปรงออก ต่อด้วยการใช้ดินสอเขียนคิ้วคมๆ วาดเส้นคิ้วด้านล่างตามที่ใจต้องการ แต่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะถอนคิ้วด้านบนออก เพราะจะเป็นการทำลายรูปทรงโค้งของคิ้วตามธรรมชาติ
“ให้ใช้แหนบดึงขนคิ้วตามทิศที่มันยาวขึ้นมา ควรถอนคิ้วสลับไปมาระหว่างคิ้วด้านซ้ายกับด้านขวา เพื่อทำให้ดูสมมาตรกันมากที่สุด เมื่อถอนเสร็จให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อแบบอ่อนเช็ดอีกครั้ง ตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ตบท้ายด้วยการใช้แปรงสีฟันแปรงคิ้วให้เข้าทรง”
แต่หากคุณถอนคิ้วมากเกินไปจนโกร๋นเสียแล้วและไม่อยากสักคิ้ว ในยุคนี้ยังมีวิทยาการที่เรียกว่า “การปลูกคิ้ว” ซึ่งเป็นการนำเส้นผมจากด้านหลังศรีษะมาปลูกในรูขุมขนคิ้ว แต่อาจต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากและใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผล ทางที่ดีสุดคืออย่าถอนให้เยอะและบ่อยเกินไป จนมันไม่ขึ้นมาอีก


ยังมีเคล็ดลับความสวยรอให้คุณได้อ่านอีกมากมาย ที่นี้ http://happyninom.blogspot.com/